the witcher season 2 cast
the witcher season 2 cast เรื่อง The Witcher เริ่มต้นจากหนังสือที่ใช้เวลาเขียนเป็นเวลานานกว่า 20 ปีสำหรับฝั่งตะวันตก งานเขียนจำนวนมากที่ถูกจับมาทำเป็นเกมหรือซีรีส์นั้นชอบเป็นนวนิยายในลักษณะ ‘มหากาพย์’ หรือนิยายเซ็ตที่มีหลายๆเล่มอยู่แล้ว มองเห็นได้จากตัวอย่างที่ประสบผลสำเร็จหลายๆเรื่อง เช่น The Lord of the Ring กับ Game of Thrones ของคุณลุง Gorge R. R. Martin หรือซีรีส์แฟนตาซีที่ดังอยู่ระยะนี้อย่าง Shadow and Bone แน่ๆว่า The Witcher เองก็ด้วยเหมือนกัน แม้กระนั้นไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆหน่อย ตรงที่คนแต่งตีพิมพ์ “Sword of Destiny”
นิยายเล่มแรกเมื่อปี 1992 และก็ใช้เวลาถึง 20 ปีกว่าจะเผยแพร่เล่มในที่สุด “Season of Storms” ออกจำหน่ายเมื่อปี 2013สรุปแล้ว The Witcher คือซีรีส์ที่ดูให้สนุกสนานได้ก็จะต้องอาศัยความอดทนขอรับเพราะว่ารายละเอียดค่อนข้างจะ Complex และก็การดำเนินเรื่องแบบไม่ลำดับเวลา ซึ่งเราแนะนำให้ดูแบบ Thai dubbing แล้วจะติดตามเรื่องได้ง่ายขึ้นแถมยังมีฉากร้องเป็น Thai language ด้วย ที่ประทับใจผมที่สุดอาจหนีไม่พ้นเพลงที่ร้องว่า “จงโยนเหรียญ Huh..bract..Witcher …” นี่แหละที่ทำให้การดู Series ประเด็นนี้มีความฮา…แบบไม่คาดฝันอยู่
รีวิวซีรีส์ The Witcher เดอะ วิทเชอร์
นักล่าจอมยักษ์เกคอยลด์ ที่ ริเวีย (เฮนรี คาวิล) นักล่ายักษ์เผ่าวิทเชอร์ ได้เริ่มเดินทางเพื่อเติมเต็มชะตาชีวิตสำหรับในการคุ้มครองเด็กสาวที่เขาจะพบในป่าตามคำพยากรณ์ the witcher season2 cast ซึ่งเด็กสาวคนซึ่งก็คือ ซิรี (เฟรยา อลลัน) เจ้าหญิงแห่งสินยี่ห้อที่จะต้องหลบภัยการทำศึกล่าอาณานิคมโดยกองทัพแห่งนิล์ฟการ์ด โดยคุณยังจำเป็นต้องค้นหาความลับของพลังลึกลับที่ครอบครัวปิดบังเอาไว้ แล้วก็อีกด้านของชะตากรรมยังมี เยนนิเฟอร์ แห่ง เวงเกอร์เบิร์ก (อันยา ชาโลตรา) จอมเวทย์สาวอาคมเก่งผู้ยอมแลกเปลี่ยนโอกาสสำหรับในการมีลูกกับความสวยสดงดงามที่เธอไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับหลังงออันน่าเกลียดถัดไป งานนี้นอกเหนือจากเหล่าซาตานที่ วิทเชอร์ อย่าง เกรอคอยลด์ ต้องจัดแจงแล้ว การตามหา ซิรี ยังเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถจะช่วยให้โลกไม่มีอันตราย
Netflix’s The Witcher ซีรีส์ย่อยง่าย ใช้เวลามองไม่นานถ้าคนไหนกันแน่ไม่ใช่หนอนหนังสือ The Witcher ก็ยังถูกทำออกมาเป็นเวอร์ชันซีรีส์ที่อำนวยการสร้างโดยเน็ตฟลิกซ์ด้วย ซึ่งเนื้อหาเกือบทุกอย่างในซีรีส์ล้วนอ้างอิงมาจากนิยายทั้งมวล โดยเหตุนั้นแม้การมองอาจจะส่งผลให้เก็บรายละเอียดเนื้อเรื่องได้ไม่ครบเท่าการอ่านต้นฉบับ แต่ก็วางใจได้ว่าเราจะได้เสพทุกเรื่องราวแบบไม่ตกหล่น แถมอยู่ในแบบที่ย่อยง่ายกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า เห็นภาพมากกว่า ตื่นเต้น เร้าใจกว่ามาก
เนื่องจากขึ้นชื่อว่าเป็นซีรีส์ทุ่มทุนสร้างของแอปสตรีมไม่งเจ้าดัง the witcher season 2 cast โปรดักชั่นไม่มีทางไก่กาแน่นอนอย่างไรก็ดี ข้อด้อยอันยิ่งใหญ่ของซีรีส์ก็คือ ในช่วงเวลานี้มันมีเพียงแค่ซีซั่นเดียวขอรับ (ร้องไห้) โดยซีซั่นที่ 2 เพิ่งจะมีข่าวสารออกมามาหยกๆช่วงวันที่ 10 เดือนพฤษภาคม 2021 ว่าปัจจุบันนี้ซีรีส์กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการหลังถ่ายทำ ซึ่งการตัดต่อ ใส่คอมพิวเตอร์กราฟิก สเปเชียลเอฟเฟกต์ต่างๆก็น่าจะใช้เวลาไปอีกพักใหญ่ แต่ว่าทางทีมงานก็ได้ประกาศไว้แล้วว่า
The Witcher Season 2 จะออนแอร์ข้างในไตรมาสท้ายที่สุดของปีนี้แน่นอน ด้วยเหตุดังกล่าวอีกไม่เกินครึ่งปีเราก็จะได้ชมภาคต่อกันแล้ว ไม่นานเกินรอคอยขอรับเรื่องราวตัวซีรีส์ในฤดูกาลแรกนั้นจะเล่าเรื่องราวของ 3 ตัวละครหลักๆแม้กระนั้นพวกเราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี นั่นเป็น Geralt , Ciri และก็ Yennefer แม้กระนั้นด้วยการเล่าเรื่องแบบตัดสลับไปมาระหว่าง
3 ตัวละครใน 1 ตอน ก็อาจทำให้ผู้ชมคนจำนวนไม่น้อยกำเนิดความงงเต็กไม่มากมายก็น้อย รวมทั้งที่สำคัญซีรีส์ยังเล่าโดยใช้เบื้องต้นอีกทั้งจากหนังสือแล้วก็เกมผสมกัน ยิ่งทำให้ผู้ที่ไม่เคยเสพทั้งสองอย่างมาก่อน บางทีอาจจะจำเป็นต้องใช้เวลาสำหรับการเรียบเรียงเรื่องนิดนึงตัวละคร Geralt นั้นในช่วงแรกจะเล่าถึงชีวิตร่อนเร่พเนจรของเขา รอรับงานไล่ล่าภูติผีไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตสมกับเป็นวิชเชอร์ แล้วก็ที่จำต้องชมเลยจริงๆคือการสวมหน้าที่เป็น Geralt ได้อย่างดียิ่งของดาราหนังอย่าง Henry Cavill เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นท่าที ท่าทางการแอ็คชั่น และยังรวมไปถึงเสียงนั้น แทบถอดแบบจาก Geralt ในเวอร์ชั่นเกม The Witcher 3 มาแบบทั้งชิ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นเสียงพูดที่ทำเอานึกว่าเปิดเกมเล่นเองมากยิ่งกว่าดูเวอร์ชั่นซีรีส์ซะอีก
แรกเริ่ม The Witcher เคยเป็นอีกทั้งนิยายแฟนตาซีดังระดับปรากฎการณ์
ของ อังเดร ดูดซึมคาวสกี (Andrzej Sapkowski)ผู้เขียนชาวโปแลนด์ แม้กระนั้นก็เป็นฉบับเกมต่างหากที่ช่วยสร้างชื่อให้ The Witcher เป็นที่ยอมรับไปทั่วทุกมุมโลก ด้วยรายละเอียดที่สลับซับซ้อน ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน การออกแบบคาแรกเตอร์ เกคอยลต์ แล้วก็นักแสดงอื่นๆได้เท่มาก รวมไปถึงความเพลิดเพลินและก็ความยากของเกมที่ทำให้ผู้เล่นใช้เวลาสำหรับในการเคลียร์เกมเป็นร้อยชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่า ต้นธารและก็ไอเดียของค้างแรกเตอร์ (รวมถึงการเดินเรื่อง)
ก็รับอิทธิพลจากเกมมาเยอะๆ ยิ่งได้ เฮนรี คาวิล แฟนเกมตัวยงของ The Witcher ที่ขอเสนอตัวโดยทันทีเมื่อมีการประกาศสร้างแม้จะยังไม่มีบท ก็ยิ่งกระจ่างถึงหนทางที่ ลอเรน ชมิตท์ ผู้สร้างวางวิถีทางเอาไว้จนผลลัพธ์ของมันก็ออกมาเสมือนเราได้เล่นเกมตะลุยด่านอย่างไรแบบนั้นเลยทีเดียวส่วนถ้าเกิดใครกันแน่ตกลงใจจะเริ่มจากการดูซีรีส์ ข้อควรไตร่ตรองก่อนดูหมายถึงซีรีส์หัวข้อนี้มิได้เรียงไทม์ไลน์เป็นเส้นตรงครับ ตัวละครที่เป็นตัวเอกทั้ง 3 ตัวจะมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง
โดยเกิดขึ้นในเวลาและก็สถานที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ของแม่มดเยนเนเฟอร์เริ่มขึ้นราวปี 1206 ก่อนเส้นเรื่องของมึงคอยลท์ และหลังจากนั้นอีกราวๆ 60 ปี เส้นเรื่องของสิริลาก็เลยพึ่งเริ่มต้นขึ้น กล่าวให้เข้าใจง่ายๆก็คือ มึงรอลท์แล้วก็เยนเนเฟอร์นั้นมีชีวิตอยู่มานับร้อยปี ผ่านเหตุการณ์ชีวิตมามากไม่น้อยเลยทีเดียว
รักกันกระทั่งเลิกไปสิบรอบ เจ้าฟ้าหญิงน้อยสิริลาถึงเพิ่งคลอดออกมาลืมตาดูโลก ตราบจนกระทั่งซิริลาเติบโตรวมทั้งมีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง นักแสดงทั้ง 3 ก็เลยจะเดินทางมาบรรจบเผชิญกัน the witcher season 2 cast รวมทั้งทำให้ไทม์ไลน์ของเรื่องดำเนินไปเป็นเส้นตรงตรงเวลาเดี๋ยวนี้อีกรอบ ซึ่งทั้งสิ้นนี้จะเกิดขึ้นในตอนสุดท้าย (EP8) ของซีรีส์ต้อนรับคืนวันหยุดสุดสัปดาห์กันได้แล้ววันนี้ทาง Netflix และก็คาดว่าถ้าเกิดฤดูกาล 2 บรรลุผลสำเร็จ
พวกเราบางทีก็อาจจะได้เห็นท้ังภาคแยก ภาคเสริม และฤดูกาลต่อไปตามมา ราวกับอย่างที่พวกเราได้มองเห็น Nightmare of the Wolf กันไป เมื่อตอนกลางปีก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาโดยในแต่ละตอนองค์ประกอบการเดินเรื่องก็เหมือนเวลาเปิดเกมมาก เป็นต้นว่าจะมีคนมาบอกภารกิจตามสถานที่ต่างๆทั้งมาในรูปแบบของป้ายปิดประกาศที่ติดตามสถานที่ หรือเป็นซีนที่ เกคอยลด์ เข้าพบคนมอบหมายภารกิจเลย ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการดึงคุณลักษณะเด่นของเกมมาใช้ได้ดี
แถมบางตอนซีรีส์ยังใช้คุณประโยชน์จากต้นแบบการเล่าเรื่องนี้สำหรับการย่อท้อเรื่องราวให้กระชับขึ้นผ่านปากตัวละครไปเลย ถึงกระนั้นในอีกด้านหนึ่งการที่มันใช้การดำเนินเรื่องเหมือนเกมก็ทำให้ผู้ชมไม่อาจยึดโยงกับเป้าหมายที่โดยความเป็นจริงของผู้แสดงได้แบบเดียวกัน โดยตอน 1-4 ซีรีส์แทบจะเดินเรื่องเสมือนมีหนัง3 เรื่องที่จำเป็นต้องเล่าพร้อมกันไปทั้ง เกรอคอยลด์, ซิรี และ เยนนิเฟอร์ แบบไม่มีเส้นเรื่องใดบรรจบกันเลย ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้ชมก็เสมือนต้องร่วมทำเควสต์ไปกับเกรอคอยลด์เรื่อยๆและพอเพียงซีรีส์เดินเข้าสู่ตอน 5 นั่นแหละที่โครงสร้างเรื่องเริ่มแจ้งชัดขึ้น(แต่ว่าก็ไม่ตัดทอนความซับซ้อนลงเลย) ด้วยเหตุผลดังกล่าวคนดูบางทีอาจจำต้องอดทนดูและเก็บเนื้อหาให้จบ 4 ตอนเสียก่อนครับก็เลยจะสามารถเข้าใจโลกใน
The Witcher รวมทั้งสามารถติดตามเรื่องราวอีก 4 ในช่วงเวลาที่เหลือได้อย่างสนุกสนานพอเหมาะ แม้บทซีรีส์จะยังมีปัญหาในแง่ตรรกะอยู่บ้างด้วยเหตุว่ามันใส่รายละเอียดที่มาก สลับซับซ้อน แม้กระนั้นดันให้เวลาในแต่ละซีนที่จะจะต้องเล่าหรือดึงอารมณ์ไม่พอหน่อยหากจะบอกว่าฉากต่อสู้คือตัวแบกแล้วก็เติมความไฮป์ให้กับหนังอีกทั้งเรื่องก็อาจไม่ผิดนัก ถ้าเกิดผู้ใดกันแน่มีความคิดว่าอยากหาเอเลเมนต์อะไรที่หลุดจากกรอบของซีรีส์ เกม หรือนิยายต้นฉบับก็ต้องฉากต่อสู้นี่แหละ มีครบทั้งความฉับไว ลื่นไหล ดุดัน แล้วก็เต็มไปด้วยฉากรุนแรงเลือดสาดอวัยวะขาดแบบจัดเต็ม
โดยถ้าเกิดใครเสพย์ The Witcher จากสื่ออื่นๆมาก่อนก็คงจะคุ้นกับการใช้ Sign ของวิทเชอร์ ที่เป็นเวทมนต์ขั้นค่อยมีไว้เพื่อเสริมการต่อสู้หรือไขปัญหาเฉพาะหน้าแค่นั้น รวมทั้งห่างชั้นกับเวทมนต์จริงๆของแม่มดอยู่เยอะเราบางครั้งก็อาจจะได้เห็นความรุนแรงขึ้นมาหน่อยในซีรีส์ที่ Geralt ใช้ Aard Sign อัดตัวประหลาดกระทั่งลอยละลิ่วไปหลายเมตร แม้กระนั้นผมบอกเลยว่า Aard Sign ที่เหล่าวิทเชอร์ในเรื่องใช้แต่ละทีนี่อานุภาพเหมือนกับดราก่อนบอxอย่างยิ่งจริงๆครับ ทั้งยังมองร้ายแรงทรงอำนาจ ไม่ใช่พลังที่ไว้ใช้แค่แก้ไข แต่ว่ามันคือพลังที่ใช้สำหรับเพื่อการทำลายหรือสังหารศัตรูได้สำหรับเพื่อการป
